ไคโตซานแทนสารเร่งเนื้อแดงในสุกร

 

ไคโตซาน

 

            การใช้ไคโตซาน แทนสารเร่งเนื้อแดงในหมู          

          ไคโตซาน ใช้แทนสารเร่งเนื้อแดงในสุกร ได้มีการวิจัยอย่างชัดแล้ว และตีพิมพ์เผยแพร่ในงานวิจัย จากนักวิจัยจากสถาบันชื่อดังต่างๆ จำนวนมากมายที่เป็นมหาวิทยาลัยของภาครัฐฯ ทางภาคการเกษตร ที่มีผลสรุปว่า สามารถใช้ไคโตซาน เป็นสารเร่งเนื้อแดงแทนสารเคมีและยาชนิดต่างๆ จนได้ผลเป็นอย่างดีมากๆ โดยแต่เดิมนั้นเกษตรกรไทยผู้เลี้ยงสุกร โดยส่วนใหญ่นั้นได้ใส่สารเร่งเนื้อแดง มีสารเบต้าอะโกนิสต์ ซึ่งเป็นยาที่ช่วยขยายหลอดลม ช่วยกระตุ้นการเต้นของหัวใจ ช่วยให้กล้ามเนื้อมดลูกขยายตัว และเพิ่มการสลายตัวไขมัน ที่สะสมในร่างกาย เมื่อเป็นเช่นนี้ เมื่อใดที่คนกินหมูเครื่องในหมูก็อาจจะทำให้ก่อโรคหลายอย่างติดตามมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่น

   -โรคมะเร็ง

   -โรคหัวใจ

   -ความดันโลหิตสูง

   -เบาหวาน

   -ไฮเปอร์ไทรอยด์

          ซึ่งโรคต่างๆเหล่านี้ล้วนแต่เป็นโรคในกลุ่ม Ncds เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ที่ทำให้ประเทศไทยเอง ต้องใช้งบจากภาครัฐในการดูแลประชากร ผ่านกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจาก คนป่วย ประชากรที่เจ็บไข้ได้ป่วย และต้องมีการบำบัดรักษา ซึ่งเป็นโรคที่เกิดมักจะเกิดจากความเสื่อมของร่างกาย และไม่มีเชื้อโรคด้วย  แต่ที่น่าสนใจ คือ มีนักพัฒนาสายพันธุ์สุกร ที่ให้เนื้อแดงเยอะไขมันน้อย เกิดการใช้สารชีวภาพ เช่น สารไคโตซานและสมุนไพรมา หรือไคโตซานนาโนโมเลกุลชื่อ ฟาร์มโอเคนาโนเทค ใช้ผสมกับอาหารสัตว์ จะทำให้สุกรมีเนื้อแดงมากขึ้น

ตัวอย่างรายชื่อสารเร่งเนื้อแดง ที่ทางการห้ามใช้ มีโทษรุนแรง

ขอบคุณภาพจาก กรมปศุสัตว์นนทบุรี

 

          และสมาคมสัตว์แพทย์ควบคุมฟาร์มสุกรไทยยังได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีในการตรวจสอบ ในรายละเอียดต่างๆ ว่าอย่าใช้สารเร่งเนื้อแดง หรือไม่เช่น เดียวกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ที่เดินหน้าหยุดสารเร่งเนื้อแดงอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง อย่างเป็นรูปธรรมและชัดเจน  วันนี้เรามีวิธีการเลี้ยงหมูโดยไม่ต้องใช้สารเร่งเนื้อแดงให้ประสบความสำเร็จอย่างงดงามด้วยสารสกัดจากธรรมชาติด้วยไคโตซาน โดยเฉพาะไคโตซานที่ประสิทธิภาพสูง นวตกรรมจากประเทศญี่ปุ่น เจ้าแห่งนวตกรรมไคโตซาน ที่เรียกว่าฟาร์มโอเค ไคโตซานนาโนเทค ซึ่งเป็นไคโตซานที่มีโมเลกุลตามงานวิจัย หรือที่เรียกว่า โลว์โมเลกุล หรือ นาโนโมเลกุลที่มีอุนภาคเล็กมากๆและเป็นฟู้ดเกรด ที่ใช้กับสัตว์ได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญไม่มีอันตรายต่อร่างกาย หรือระบบการทำงานในร่างกายของสัตว์เลย 

           โดยจากนี้ไปเกษตรกรทั้งหลายก็ไม่จำเป็นต้องใช้สารเร่งเนื้อแดงในการเลี้ยงสุกร อีกแล้ว หรือฟาร์มปศุสัตว์ต่างๆอีกเช่นกัน ก็ด้วยเพราะประเทศไทย มีสารชีวภาพเช่น ไคโตซาน โดยเฉพาะ ถ้าเป็นใครโตซานที่มีนวัตกรรมที่ดี ในการผลิตเป็นไคโตซานที่มีนวัตกรรมการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งทำให้ใครโตซานนี้ เป็นฟู้ดเกรดและมีโมเลกุลเล็ก ในระดับนาโน

     - ใช้แล้วให้เนื้อแดงเยอะ

     - สุกรมีภูมิคุ้มกันมีสุขอนามัยที่ดี

 

          อีกหนึ่งงานวิจัย จาก สาขาสัตว์ศาสตร์ คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัย เทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยวิทยาเขตมนคศรีธรรมราช  การเสริมไคโตซานในอาหารสุกรรุ่น-ขุน โดยนายปิยบุตร(2543) รายงานว่าจากการเลี้ยงโดยการทดลองเลี้ยงสุกรรุ่น ด้วยอาหารที่เสริมการโตซานในสุกร 6 กลุ่ม คือ

     - กลุ่มที่ควบคุมเป็นกลุ่มที่ใช้ สูตรอาหารข้าวโพด-กากถั่วเหลือง กลุ่มยาปฏิชีวนะ (Amoxycillin 100 ppm)

     - กลุ่มเสริมไคโตซานที่ระดับ 200, 400, 600 และ 800 ppm ในสุกร 2 ช่วง ช่วงคือ

     - ช่วงสุกรรุ่น (น้ำหนักประมาณ 30- 60 กิโลกรัม) และ

     - ช่วงสุกรขุน (น้ำหนักประมาณ 60- 100 กิโลกรัม)

          พบว่า อัตราการเจริญเติบโต ประสิทธิภาพการเปลี่ยนอาหารเป็นน้ำหนักตัว ตลอดการทดลองที่ดีที่สุดในกลุ่มที่ได้รับการตรวจสารที่ระดับไคโตซาน 200 ppm แต่ไม่แตกต่าง จากกลุ่ม สุกรที่ได้รับ ampicillin 100 ppm แต่ไขมันสันหลังเมื่อสิ้นสุดการทดลองไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญทางสถิติ

สรุป

การใช้ไคโตซานในอาหารสุกรรุ่น-ขุน การใช้ไคโตซานในระดับ 200 ppm

1. ทำให้สุกรมีการเจริญเติบโต

2. ทำให้สุกรมีการเจริญเติบโตประสิทธิภาพ

3. ทำให้สุกรมีการเจริญเติบโตประสิทธิภาพการเปลี่ยนอาหารเป็นน้ำหนักและ

4. ทำให้ต้นทุน ค่าอาหารในการเพิ่มน้ำหนักตัวดีที่สุด ในกลุ่มที่ได้รับ แอมม๊อกซี่ซิลิน 100 ppm

5. ส่วนไขมัน ส่วนไขมันสันหลังเมื่อสิ้นสุดการทดลองไม่ ส่วนไขมันสันหลังเมื่อสิ้นสุดการทดลองไม่แตกต่างกันในสุกรทุกกลุ่มเลย

 


งานวิจัย จาก คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอบคุณการสัมมนาวิชาการเกษตร ประจำปี 2552หัวข้อวิจัย การเสริมไคโตซานในอาหารต่อสมรรถภาพการผลิตสุกรรุ่น-ขุน

Effect of Chitosan Supplementation in Diet of Production Performance of Going- Finishing Pig

ความว่า การศึกษาผลการใช้ไคโตซาน ในอาหารต่อสมรรถภาพการผลิตสุกรรุ่น -ขุนโดยใช้สุกรลูกผสมจำนวน 48 ตัว เลี้ยงโดยแบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม กลุ่มตาม กลุ่มตามอาหาร กลุ่มตามอาหารทดลองกลุ่ม 8 แต่ละกลุ่มได้รับ อาหารดังนี้

   กลุ่มที่ 1 เลี้ยงใช้อาหารสูตรควบคุมข้าวโพด-กากถั่วเหลือง

   กลุ่มที่ 2 เลี้ยงโดยให้อาหารกลุ่มควบคุมเสริมยาปฏิชีวนะ ampicillin ในระดับ 100 ppm

   กลุ่มที่ 3, 4, 5 และ 6 ใช้อาหารสูตรควบคุมเสริมด้วยสารไคโตซานในระดับ 200,, 600, และ 800 cm ตามลำดับ แบ่งอาหารให้ออกเป็น 2 ระยะ คือ

     1. สุกรรุ่น ( 30- 60 กิโลกรัม)

     2. ระยะลูกสุกรขุน (- 60-100) กิโลกรัม

     วางแผนการทดลองสุ่มในบล็อกสมบูรณ์ตามน้ำหนักสุกร ตั้งแต่เริ่มต้นทดลอง เมื่อสิ้นสุดการทดลอง สุกรที่ได้รับอาหารสูตรควบคุมเสริมสารไคโตซานในระดับ 200 ppm  มีอัตราการเจริญเติบโต อัตราการเปลี่ยนอาหารเป็นน้ำหนักดีที่สุด และมีต้นทุนค่าอาหารในการเพิ่มน้ำหนักตัวต่ำสุด

 

ดูวิธีการใช้ไคโตซาน ฟาร์มโอเคนาโนเทค Farm OK nanotect และวิธีใช้ในพืชและสัตว์ ได้ที่นี่ 

          ผลออกมาแบบนี้ไม่ใช้ไม่ได้แล้ว ต้องรีบเร่งหามาใช้ เพราะมีงานวิจัยรองรับ และตีพิมพ์จนแพร่หลาย รวมไปถึงในงานสัมมนาวิชาการ ที่เผยแพร่แล้ว เกษตรกรที่ยังไม่ได้ใช้ต้องพิจารณา คือ

   1. ทำเกษตรอินทรีย์ ลดการใช้ยา และยาปฏิชีวนะ

   2. เลี้ยงได้ดี โตขึ้น ภูมิคุ้มกันในสุกรดีขึ้น โตเร็ว

   3. ต้นทุนต่ำลงมาก

     คราวนี้นี้จะหาได้จากที่ไหนละ เราขอแนะนำ ฟาร์มโอเคนาโนเทค เป็นไคโตซานบริสุทธิ์ จากการผลิตด้วยนวตกรรม ไฮเทคโนโลยีของชาวญี่ปุ่น เจ้าแห่งนวตกรรมไคโตซาน ได้ร่วมมือกับเรา บริษัทผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพจำกัด ช่วยเหลือเกษตรกร และส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ ร่วมกันผลิต ไคโตซานโลว์โมเลกุล หรือที่เรียกว่า นาโนโมเลกุล ที่ปลอดภัย เป็นฟุ้ดเกรด สะอาดและเป็นอาหารให้กับเชื้อจุลินทรีย์ จนเป็นประโยชน์มหาศาลต่อร่างกายสัตว์ที่คุณจะหาได้ยากในประเทศไทย เพราะเรา

- ไม่ผสมเคมีภัณฑ์ ยา ปุ่ย ฮอร์โมน ลงไปเพื่อหวังผลจากสิ่งเหล่านี้โดยไม่ใช่ประโยชน์จากไคโตซานเลย(ด้วยนวตกรรมในการผลิตยังไม่ถึงขั้นชาวญี่ปุ่นในด้านเทคโนโลยีในการผลิต ที่่จดลิขสิทธิ์ และได้ใช้ในประเทศญี่ปุ่น มากว่า 40 ปี)
- เป็นไคโตซานที่สกัดจนได้โมเลกุลที่เล็ก จนเป็นประโยชน์ต่อการให้สิ่งมีชิวิต รับประทานได้ โดยไม่มีอัตรายและสามารถดูดซึมสู่ร่างกาย จนนัตว์นำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง โดยไม่จำเป็นต้องผสมสารเคมีใดๆ เลยและ ไม่เหนียวดังเช่นที่ท่านเคยใช้จากไคโตซานทั่วไปจนไปอุดตันในดิน ในร่างกายระบบทางเดินอาหารของสัตว์ จนทั่วไปใช้แล้วไม่ได้ผลและเกิดอันตราย จนต้องนำไปผสมกับยา และสารเคมีตาประเภทต่างๆ ที่จะไปใช้ซ้ำเติมเข้าไปอีก

- ใช้น้อยประหยัดมากๆ ใช้ผสมอาหาร 10cc. ต่ออาหาร 1 กก. และใช้ผสมน้ำให้สุกรดื่ม ในสัดส่วน 1cc. ต่อน้ำ 4 ลิตร หรือจะใช้ฉีดพ่นภายในโรงเรือน หรือเตรียมโรงเรือนก่อนเลี้ยง หลังจากมีโรคติดต่อ ในสัดส่วนพ่นพื้นเตรียมด้วย 1cc.ต่อน้ำ 1 ลิตร  ประหยัดมากๆ ไม่ต้องเสี่ยงไม่ต้องลอง ไม่ต้องกังวลอีกแล้ว มีงานวิจัยทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ชี้ให้เห็นผลแล้ว ใช้เร็วก็รอดเร็ว รวยเร็ว ไม่มีอันตราย

 

สนใจรีบติดต่อเรา ได้ทันที ในเวปนี้